ไกล่เกลี่ยหนี้ชั้นบังคับคดี

ลูกหนี้หลายท่านเมื่อโดนฟ้องร้อง เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายล่วงเลยมาจนถึงขั้นบังคับคดี อาจคิดว่าการแก้ไขหนี้มาถึงจุดจบแล้ว แต่จริงๆแล้วไม่ว่าท่านจะเป็นหนี้ที่ยังไม่โดนฟ้อง อยู่ระหว่างฟ้องหรือแม้ชั้นบังคับคดี ท่านก็สามารถที่จะแก้ไขปัญหาหนี้ได้ด้วยการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี
การไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีเป็นการระงับข้อพิพาทเพื่อยุติการบังคับคดีโดยมี “ผู้ไกล่เกลี่ย” ทำหน้าที่เป็นคนกลางช่วยเหลือในการเสนอแนะแนวทางเพื่อให้คู่กรณีสามารถหาทางออกร่วมกันได้ แต่ผู้ไกล่เกลี่ยจะไม่มีอำนาจในการกำหนดข้อตกลง ทำได้เพียงแนะนำหรือชี้แนะหนทางที่จะเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งการไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดีสามารถทำได้ 2 ช่วง คือการไกล่เกลี่ยก่อนบังคับคดี และการไกล่เกลี่ยภายหลังที่มีการบังคับคดีแล้ว
1.การไกล่เกลี่ยก่อนบังคับคดี จะเข้าสู่กระบวนการภายหลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาออกมา ซึ่งคู่กรณีสามารถยื่นคำร้องแสดงความประสงค์ต่อศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกรมบังคับคดี หรือสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ หากไกล่เกลี่ยสำเร็จจะทำให้การบังคับคดียุติไป
2.การไกล่เกลี่ยหลังบังคับคดี คู่กรณีสามารถยื่นคำร้องแสดงความประสงค์ต่อศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกรมบังคับคดี หรือสำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ และหากไกล่เกลี่ยสำเร็จก็จะนำไปสู่การถอนยึดทรัพย์ ถอนอายัดทรัพย์หรือถอนบังคับคดี
การไกล่เกลี่ยในชั้นบังคับคดีก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่สามารถช่วยเหลือในการไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ได้ ขอแค่ท่านมีความประสงค์และตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาหนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ยังสามารถแก้ไขได้

ที่มา : กรมบังคับคดี

รับไถ่ถอนบ้าน-ที่ดิน-คอนโด จากบังคับคดี

ใครที่มีโอกาสโดนยึดบ้านได้บ้าง??

ติดจำนองธนาคาร บริษัทลิสซิ่ง หรือบุคคลอยู่

มีโอกาสโดนยึดบ้านได้มั๊ย??

โดนฟ้อง ยึดทรัพย์ แบบไหน ที่สามารถรีไฟแนนซ์กับเราได้ ??

ทางบริษัท ขออธิบายง่ายๆดังนี้

ในปัจจุบันไม่ว่าบ้านจะ ปลอดภาระหรือ ติดจำนองอยู่ ก็สามารถโดนฟ้องยึดบ้านได้ทั้งนั้น

ถ้าหากท่านมีสินเชื่อ ตัวอื่นๆของธนาคาร หรือมีการค้ำประกันรถยนต์ แล้วขาดส่ง ตามเงื่อนไขของบริษัทหรือธนาคารนั้นๆ คุณอาจโดนฟ้อง โดนสืบทรัพย์ และคุณก็อาจโดนยึดทรัพย์ได้

ทั้งที่ราคานี้กับราคามูลค่าของหลักทรัพย์ต่างกันลิบลับก็ตาม

กรณีที่ 

1 โดนยึดทรัพย์แบบติดจำนอง โดนฟ้องโดยผู้ให้กู้จำนอง เนื่องจากขาดส่ง กรณีนี้ต้องดูที่ยอดปิด ถ้าเป็นหนี้เกินครึ่ง ของมูลค่าหลักทรัพย์ จะยังไม่สามารถเปลี่ยน หรือรีไฟแนนซ์กับเราได้

เนื่องจากธนาคารตอนให้กู้ให้วงเงินตั้งแต่ 90 ถึง 100% ซึ่งทางโรงจำนำๆ ให้ยอดได้สูงสุดไม่เกิน 60% ของมูลค่าการซื้อขายปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องผ่อนมาแล้วเกินครึ่งถึงทำนิติกรรมได้

แต่หากติดจำนองบริษัทไฟแนนซ์/นายทุนบุคคลแล้วโดนฟ้องยึดบ้าน มีโอกาสที่จะรีไฟแนนซ์กับเราได้ เนื่องจากบริษัทไฟแนนซ์ให้ยอดต่ำ ดูราคาประเมินเป็นหลัก จึงอาจมีช่องว่างเหลือ ที่สามารถเปลี่ยน มาไว้กับทางเราได้ เป็นต้น

2 โดนฟ้องยึดบ้านโดยสถาบันการเงินอื่นๆ โดยผู้ฟ้องไม่ได้เป็นผู้ให้กู้จำนอง ยกตัวอย่างเช่น

นายเอ ไปค้ำประกันรถยนต์ให้เพื่อน แต่เพื่อนไม่ส่ง ค่างวดรถ ทางบริษัทไฟแนนซ์ ตามเพื่อนของนายเอไม่ได้ จึงสืบทรัพย์ เพื่อทำการยึดทรัพย์ ของผู้ค้ำประกันคือนายเอ แต่บ้านของนายเอ ก็ยังติดจำนองอยู่กับสถาบันการเงินอื่น

ถ้าเป็นลักษณะนี้ ต้องดูยอดหนี้จำนอง + หนี้สินที่โดนฟ้อง ว่ามูลหนี้เกินกว่าเงื่อนไขของบริษัทหรือไม่ หากรวมแล้วยอดหนี้ไม่เกิน 50% ของมูลค่าซื้อขายก็มีโอกาส ทำได้

3 โดนฟ้องยึดบ้านแบบโฉนดไม่ติดภาระใด??

หากโดนฟ้องยึดบ้าน ทั้งที่ บ้านหลังนั้นก็ไม่ได้ติดภาระทำนองที่ไหน แต่เจ้าของบ้านอาจเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วไม่ได้จ่าย สืบทรัพย์เจอว่ามีบ้าน ทางบังคับคดี จึงทำการยึดขายทอดตลาด

ถ้ายอดหนี้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของมูลค่าหลักทรัพย์ ก็สามารถ ให้บริษัทไปปิดบัญชีแล้วทำจำนองกับเราต่อได้

หากเกิดปัญหาโดนฟ้องยึดบ้านบังคับคดีขายทอดตลาด แล้วยอดยังไปต่อได้ ก็ไม่ต้องเครียดไป เพราะโรงจํานองเสนาะเรามีบริการปิดบัญชีไถ่ถอนบังคับคดี สำหรับคนที่โดนฟ้องยึดบ้าน

ถ้ายอดไปต่อได้เรายินดีช่วยคุณ ปิดบังคับคดี มีโอกาสใหม่อีกครั้ง